วันศุกร์ที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2557

แตงกวา

แตงกวา

ชื่ออื่น : ภาคเหนือเรียกว่า แตงขี้ไก่ แตงขี้ควาย แตงช้าง เชียงใหม่เรียกว่า แตงปี แตงยาว แตงเห็น แตงอ้ม ตาเสาะ
ชื่อสามัญ : Cucumber
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Cucumis sativus Linn.
วงศ์: Cucurbitaceae
ลักษณะทั่วไป :
  • แตงกวามีรากแก้ว แตกแขนงเป็นจำนวนมาก รากสามารถแผ่ทางด้านกว้างและหยั่งลึกได้มากถึง 1 เมตร
  • ลำต้นเป็นเถามีขนขึ้นมีขนขึ้นปกคลุมทั่วไป มีข้อยาว 10 ถึง 20 เซนติเมตร มีหนวดเกาะบริเวณข้อโดยส่วนปลายของหนวดไม่มีการแตกแขนง
  • ใบมีก้านใบยาว 5 – 15 เซนติเมตร ใบหยาบมีขนใบ มีมุมใบ 3 ถึง 5 มุม ปลายใบแหลม ใบใหญ่มี เส้นใบ 5 – 7 เส้น
  • ดอกเพศเมียเป็นดอกเดี่ยว กลีบเลี้ยงสีเขียว 5 กลีบ กลีบดอกสีเหลือง 5 กลีบ ดอกตัวผู้เป็นดอกเดี่ยว
  • ผลแตงกวามีลักษณะเรียวยาวทรงกระบอก มีใส้ภายในผล ความยาวระหว่างผล 5- 40 เซนติเมตร
สรรพคุณทางยา :
  • ผลและเมล็ดอ่อน กินเป็นยาระบายอ่อนๆบำรุงธาตุ แก้ไข้ แก้กระหายน้ำ ขับปสสาวะ
  • ผล ใช้ตำเป็นยาพอกภายนอกแก้อักเสบ รักษาแผลไฟลวก น้ำจากผลใช้รักษาโรคผิวหนัง
  • เนื้อในเมล็ดแก่ กินเป็นยาขับพยาธิ ตำรายาไทยระบุให้ใช้แตงกวาที่คว้านใส้ออกใส่ผงสารส้มให้เต็ม เผาไฟพอสุก บีบคั้นเอาน้ำดื่มแก้ขัดเบา

 

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น