วันอาทิตย์ที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2557

ขอบชะนาง

ขอบชะนาง

ชื่ออื่น ๆ : ขอบชะนางขาว หนอนตายอยากขาว หนอนขาว (ไทยภาคกลาง) ขอบชะนางแดง หนอนตายอยากแดง หนอนแดง (ไทยภาคกลาง) หญ้าหนอนตาย (เหนือ) หญ้ามูกมาย (สระบุรี) ตาสียาเก้อ ตอสีเพาะเกล (กะเหรี่ยง-แม่ฮ่องสอน)
ชื่อสามัญ : -
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Pouzolzia pentandra Benn.
วงศ์ : URTICACEAE
 
ลักษณะทั่วไป
  • ต้น : เป้นพรรณไม้ล้มลุกจำพวกหญ้า และเลื้อยแผ่ไปตามดินแต่ยอดจะตั้งขึ้น มี 2 ชนิด คือ ขอบชะนางแดง กับ ขอบชะนางขาว และมีลำต้นขนาดโตกว่าก้านไม่ขีดไฟเล็กน้อย
  • ใบ : เป็นใบเดี่ยวจะออกสลับกัน รูปเป็น รูปปลายหอก ในขอบใบชะนางแดง ส่วนรูปใบของขอบใบชะยางขาว จะมีลักษณรูปค่อนข้างมนและกลม เส้นใบของทั้งสองชนิด จะเห็นเด่นชัดเป็น 3 เส้น ใบจะโตประมาณ 2 กระเบียดนิ้ว ยาวประมาณ 1 นิ้วครึ่ง ถึง 1 นิ้วฟุต ส่วนสีและใบของต้นขอบชะนางจะสีม่วงอมแดง เฉพาะแผ่นใบนั้นสีจะเด่นชัดคือ หลังใบจะมีสีเขียวเข้มอมแดง ท้องใบจะเป็นสีแดงคล้ำ และสีของขอบใบชะนางเป็นสีขางอ่อน ๆ รวมทั้งชนิดจะมีขนเล็กน้อยบนต้นและแผ่นใบ
  • ดอก : จะมีขนาดเล็ก และจะออกเป็นกระจุกระหว่างซอกใบและกิ่งเป็นดอกตัวผู้กับดอกตัวเมีย ดอกของขอบชะนางแดงมีสีแดงส่วนดอกของขอบชะนางขาวจะเป็นสีเขียวอมเหลือง
  • ผล : แห้งไม่แตกแบบ achene
การขยายพันธุ์ : โดยการใช้ผล เป็นพรรณไม้ที่ชอบขึ้นตามเรือกสวนริมร่องและตามพื้นที่ร่มเย็นี่มีอิฐปูนเก่า ๆ หรือที่ผุพัง
ส่วนที่ใช้ : ทั้งต้น ต้นและดอก ใบสด เปลือกของต้น
สรรพคุณ :
  • ทั้งต้น นำมาปิ้งไฟและชงกับน้ำเดือด ใช้ขับพยาธิในเด็ก
  • ต้นและดอก ใบ จะมีรสเมาเบื่อ นำมาหั่นเป็นชิ้นเล็ก เอามาในปากไหปลาร้าที่หนอน อีกไม่นานหนอนก็จะตาย
  • ต้นสด ใช้ตำเป็นยาฆ่าหนอน ฆ่าแมลง วัวควายที่เป็นแผลจนเน่าขนาดใหญ่ หนอนจะตายและจะช่วยรักษาแผลด้วย
  • เปลือกของต้น ช่วยดับพิษในกระดูกและในเส้นเอ็น รักษาพยาธิผิวหนัง เช่น หุงน้ำมันทาริดสีดวง หรือจะใช้ต้มผสมเกลือให้เค็มนำมารักาาโรครำมะนาด ขอบชะนางทั้ง 2 ชนิด นำมาปรุงรับประทานเป็นยาขับเลือด และขับระดูขาว ขับปัสสาวะ รักษาโรคหนองใน

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น